พิมพ์

[raponsan]

.



ควรใช้ธรรมะอะไรดีครับ ถ้าเพื่อนยืมเงินแล้วไม่คืน
 

 

คำถามของคุณ : Nipitphol

ผมเองก็จัดว่า เป็นคนหน้าบาง ขี้เกรงใจ เวลาเพื่อนขอยืมเงินผมก็จะให้ไป (ตอนนี้ก็จัดว่าเยอะพอสมควร ซึ่งพอจะเป็นเงินเดือนใครสักคนได้ 3-4 เดือนเลยครับ) แต่ผมไม่กล้าทวง พอพูดเกริ่นไปเขาก็หาว่าผมไม่ไว้ใจ นี่ก็ล่วงเลยมาปีกว่าแล้ว ผมก็มีความจำเป็นต้องใช้เงิน พยายามจะคิดว่าเป็นกรรมที่ทำร่วมกันมา ตอนนี้ผมก็ห่างๆ เพื่อนคนนี้ ไม่พูดกันนานแล้ว เหมือนว่าจะเสียเพื่อนไปเลยล่ะครับ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็คบกันดีอยู่

     - ผมอยากทราบว่า ผมทำกรรมอะไรร่วมกันมากับเพื่อนคนนี้ครับ
     - แล้วผมควรใช้หลักธรรมะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
     - ผมควรปลง แล้วลืมเรื่องนี้ไปเลยหรือเปล่าครับ หรือว่ามีหนทางอื่นที่พอจะทำได้บ้าง เพราะตอนนี้ก็ต้องการใช้เงินเรียนต่อเหมือนกัน ไม่อยากรบกวนทางบ้านครับ

       ขอบคุณนะครับ


 

ความเห็นจากคุณ : Embrace

เห็นใจครับผม อย่าคิดว่าเป็นกรรมเก่าสิครับ เพราะอาจจะเป็นกรรมใหม่ที่เกิดจากความขี้เกรงใจก็ได้นะครับ คนที่ถือสัตย์นะครับ แค่คุณทวงคำเดียวเขาจะรู้สึกผิดทันที จะรีบรับปากทะยอยคืนให้วันนั้นวันนี้แล้วจะคืนได้จริงๆ ส่วนพวกที่ชอบอ้างว่า ทำไม ไม่ไว้ใจหรือ ฯลฯ

พวกนี้ส่วนมากเป็นพวกเอาเปรียบคนนะ ยิ่งคนขี้เกรงใจอย่างคุณ เห็นมาเยอะ ครั้งหน้า ถ้ามาอีกและเป็นจำนวนเงินเยอะๆขอแนะนำให้จับเซ็นสัญญาเงินกู้เลย ถ้าสัญญาเรายุติธรรมพอแล้วไม่กล้าเซ็นแปลว่าอะไร

พวกลูกหนี้ตอนที่ชักดาบไม่เคยเห็นว่าเขาจะเห็นใจเจ้าหนี้เลย พวกนี้ไม่ค่อยเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษหรอก ถ้าเห็นว่ามีโอกาสโกงได้ ว่าเงินเล็กน้อยคุณคงไม่ฟ้องเขา ก็ยิ่งย่ามใจ ตอนนี้เมื่อยังไม่ได้เงินคืนก็ลองทวงไปก่อน ถามไปเลยตรงๆว่าคิดจะคืนให้ได้เมื่อไหร่

ถ้าเขาพูดผัดไปเรื่อยๆก็ทำใจเถอะครับ อย่าไปเก็บมาคิดแค้นแช่งชักหักกระดูกเขา บาปจะเข้าตัวเรา กลายเป็นโดนเบี้ยวแล้วใจเรายังเป็นอกุศลอีก โดนสองเด้ง ไม่สมควรเลย
 
เมื่อเห็นธาตุแท้เขาแล้วคราวหน้าก็ไม่ต้องช่วยแล้วกันนะครับ อีกหน่อยถ้าพลาดให้ใครยืมเงินก้อนใหญ่ เขาทำท่าชักดาบ คุณมีสัญญาเงินกู้ ก็ฟ้องแพ่งเอานะครับ คนพวกนี้ถ้าเราไม่ช่วยกันจัดการก็เหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป อย่าให้พวกขี้โกงได้อยู่สุขนะครับ

สรุปสั้นๆจัดการด้วยมาตรการทางโลก แล้วถ้าไม่ได้คืนก็จัดการด้วยมาตรการทางธรรม (อุเบกขารู้)



ความเห็นจากคุณ : ดอกบัวตูม

ก็บอกเพื่อนไปตามตรงว่าตอนนี้ เราก็เดือดร้อนเรื่องเงินเหมือนนายตอนนั้น อยากได้เงินคืน เพื่อไปเรียนต่อ  ถ้าเพื่อนเป็นคนดี มีความรับผิดชอบ เขาก็คงคืนให้ ถึงไม่ครบทะยอยมาก็ยังดี

แต่ถ้าเขาบิดพริ้ว แสดงว่ามีเจตนาเบี้ยว คนเราถ้าเขาจะเบี้ยว เราจะไปทำอะไรเขาได้ นอกจากจัดการกับตัวเราเอง   ทำอย่างไรจะไม่ทุกข์ ไม่เจ็บใจ ไม่โกรธเพื่อน ถ้าเขาเจตนาไม่คืน เราก็ต้องตัดใจ ยกให้เขาไปเลย เงินเท่านั้น  ซื้อคนตั้งคนไม่แพงหรอก

อย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้ธาตุแท้ของคนคนนี้ ดีกว่าคบกันไปนานๆ เชื่อใจกันมากกว่านีจะเสียมากกว่านี้ อีกอย่างเอาเงินเราไป เขาก็ไปใช้ประโยชน์ ไม่ได้เอาไปทิ้งขว้างซะหน่อย คิดเช่นนั้น แล้วก็อภัยให้เพื่อนซะ

ที่เล่ามาเนี่ย เคยโดนนะ ไม่ใช่ไม่เคย แล้วก็คิดอย่างนี้แหละค่ะ ถ้าเรายังโดนโกงได้ แสดงว่าเรายังมีตังค์ใช้อยู่นะ    ให้ดีใจ แล้วถ้าเราเองไม่เคยคิดโกงใคร รักษาสัจจะ เราจะยังมีเครดิต เวลาเราเดือดร้อน ก็จะมีคนช่วยเหลือ

         ขอให้เจริญในธรรมค่ะ

@@@@@@@

ความเห็นจากคุณ : ฟ้าใส

เจอมาเยอะ ทุกข์กับความเสียดายเงิน บวกความแค้นใจที่เพื่อนทำเราได้ จนมาเจอเคล็ดลับของการบริหารเงิน ใช้ได้ผล เลยอยากบอกต่อนะคะ

1. โชคดีที่เราไม่ขาดแคลน จึงมีเงินเหลือพอให้คนยืม
2. ต้องมีการบริหารจัดการเงินที่ดี ตามคำสอนของพระพุทธองค์ แบ่งรายได้เป็นส่วนๆ ส่วนสุดท้าย คือ ฝังดิน (เป็นเงินที่กันไว้ทำบุญ บริจาคทาน รวมทั้งแบ่งปันให้คนเดือดร้อน)

3. เมื่อมีคนมาขอความช่วยเหลือ ต้องเตือนตนว่า
    3.1 เงินที่ให้ไปคราวนี้ ต้องถือว่าเป็นเงินตกน้ำ โอกาสได้คืนน้อยมาก
    3.2 หากปฏิเสธจะสบายใจหรือทุกข์ใจที่ไม่ได้ช่วย ตามคำกล่าวอ้างของเขา

4. เมื่อมีความเห็นใจ คิดจะให้ก็ให้เท่าที่เราไม่เดือดร้อน(เพราะทำใจแล้วว่าให้ลืม/ไม่ใช่ให้ยืม)

5. ไม่จำเป็นต้องให้ยืมทุกครั้ง เพื่อนบางคนเทคนิคดี แรกๆจะรีบคืน หลังๆยืมมากขึ้นแล้วไม่คืน หากเจออย่างนี้ก็ถือว่า ชาติก่อนเราติดหนี้เขา ก็ใช้กันไป แล้วอย่ามายืมอีก

6. เมื่อคิดจะปฏิเสธ ไม่ต้องกลัวเสียเพื่อน เพราะเพื่อนที่ดีย่อมเข้าใจว่าเราก็มีความจำเป็น พวกที่ขยันเบียดเบียนเพื่อนก็ไม่ควรเก็บไว้รบกวนจิตใจ

ส่วนกรณีของคุณ หลวมตัวให้ไปแล้ว ก็เงินตกน้ำไปแล้ว คิดจะได้คืน คงจะยากหน่อย กลับมาถามตนเองว่ากล้าทวงไหม (เราก็หน้าบางทวงใครไม่เป็นเหมือนกัน) ถ้าไม่ทวงก็ทำใจ กลับมาเก็บหอมรอมริบใหม่ หากทวงก็ทำใจว่าคงได้คืนยาก อย่างไรเราก็เสียเพื่อนคนนี้ไปแล้ว ตั้งแต่ที่เขายืมแบบลืมคืนนั่นแหละค่ะ

          ขอให้โชคดี ใจแข็งกับการปฏิเสธคนในคราวต่อๆไปนะคะ

 


ขอบคุณที่มา : http://www.watdao.com/board/index.php?topic=24.0
ขอบคุณภาพจาก https://s.isanook.com/

[ยอดชาย]

ถ้ายืมแล้วไม่คืน ก็มีมาตรการจากเบาไปหาหนัก ครับ

  ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ยืมครับ สำหรับผม ซีเรียสตั้งแต่หลักพันครับ เพราะยังขอเงิน พ่อ แม่ ใช้อยู่ครับ

  1.ทวงถาม  ส่วนน้อยทีั่จะคืนครับ

  2.ทวงถามบ่อย ๆๆ  ส่วนใหญ่จะได้คืนแล้วครับ

  3.ทวงถามให้รำคาญมากขึ้น  จะได้คืนเร็วพร้อมโดนด่าด้วยครับ

  4.ก่อกวนให้รำคาญมากขึ้นไปอีก  ส่วนมากไม่ได้คืนครับ

  5.แจ้งผู้ปกครอง ครับ ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะให้คืนครับ แต่ผิดใจกันกับเพื่อนครับ

  6.แจ้งตำรวจ ครับ ยังไม่เคยทำถึงขนาดนี้ครับ

  7.กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ครับ อันนี้ใ้ช้บ่อยครับ เพราะเพื่อนมันเป็นชนิดขอใช้ครับ ไม่ใช่ยืมแล้ว

    อันนี้สงบใจสักพัก นึกถึงบุญกุศลครับ

    ทำในใจว่า เราเคยเป็นหนี้เขาครับ


  เรื่องนี้ผมมีประสพการณ์มากครับ เพราะบ้านผมเป็นคนมีฐานะดี เพื่อน ๆ มันก็เลยชอบยืมกัน

  จากผู้มีประสพการณ์ครับ

   

[prachabeodee]

ง่ายนิดเดียว....ก็ต้องเข้าใจให้ถูกต้องเท่านั้นเอง.....ว่ากล้าที่จะให้ยืมก็ต้องกล้าที่จะรับผลอันนั้นทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจ.......บางครั้งผู้ยืมเงินมีนิสัยอย่างนั้น...ก็ต้องเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้นทีนี้วิธีแก้ก็มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับแต่ละคนไม่เหมือนกัน.....
สำหรับป้าถ้าพบคนประเภทนี้ ก็จะให้ยืมแต่ให้ไม่มาก....แล้วก็ต้องทำใจด้วยว่าไม่ได้คืนก็ไม่เป็นไร แต่จะไม่ให้ยืมเพิ่มอีกเพราะถือเป็นเงื่อนไขที่เราตั้งขึ้นถ้าไม่ยอมคืนหนี้เก่า..เราก็จะไม่ได้ยืมอีก,หรืออาจจะเอาสิ่งของไว้เป็นประกันก็ได้...หรือเราเองก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นมากจนเกินไป....การยืมเงินก็ไม่เกิดขึ้น......

[VongoleX]

วิธีที่ผมใช้ประจำนะครับ คือ ต้องโกหก ครับ....( ผิดศีล )

เช่นเพื่อนมาขอยืมเงิน 10000 บาท ก็จะบอกว่ามีพอให้ยืมได้สัก 1000 บาทนะ

ถ้าเราตอบว่าไม่มีเลย จะเป็นการหน้าเกลียดไม่รักษาน้ำใจกัน ส่วนใหญ่ก็จะพอใจที่จำนวน 1000 บาท

เพราะเพื่อนมีเจตนายืมแล้ว ยืมเลย เอาไว้ใช้ตอนไหนก็ได้ ซึ่งทุกครั้ง ที่ผมให้ยืมผมจะจดไว้ ตอนนี้รวมแล้วผมมี

เพื่อนที่ยืมเงินผม หลักพันบาท นี่ประมาณเกือบ 60 คนใช้คืนเพียง 12 คน อีก 48 คนนั้นยังไม่มีใครใช้คืน ซึ่ง

คนพวกนี้จะมาคบกับเราตามปกติ และจะแกล้งทำเป็นลืมว่าเป็นหนี้อยู่ด้วยครับ ตอนนี้มีเงิน มีโบนัส ก็ลืมกันจริง ๆ

ครับ ซึ่งผมเองทำใจไว้ตั้งแต่ตอนให้ยืมแล้วครับ คิดดูสิครับ ที่ยืมกันเป็นหลักพัน ถ้าผมไล่เก็บเงิน 48 คนนี่โบนัส

ย่อม ๆ เลยครับ แต่ทั้งนี้เมื่อเราให้ยืมก็ต้องทำใจครับ ยืมกันตรง ๆ ดีกว่าต้องไปเลี้ยงเหล้าเพื่อนครับ

ผมชอบวิธีสุดท้าย ของคุณ ยอดชาย ครับ คือกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล ใช้หนี้กรรมกันแต่ชาติอื่น ๆ กันเสียชาตินี้

หนี้เวร หนี้กรรม จะได้ลดน้อยลงบ้าง

 5 5 5 5 5

 

[nopporn]

แหม ช่างเป็นผู้มีใจประเสริฐ กันจริง นะคะ เพราะนี่แค่หลักพัน อันนี้พวกเพื่อน ๆ นะคะ

ถ้าเจอญาติ พี่ น้อง มานั่งร้องไห้ ยอแย เพื่อยืมละก็ ไม่ใช่แค่หลักพันนะคะ หลัก แสน เลยคะ

บางคนยืม กันแบบ แสนสาหัส เลยนะคะ บางคนเจอให้ไปค้ำประกัน แล้วต้องใช้หนี้แทน นี้แหละคะ

หนี้เวรใหญ่ ใช่หรือไม่คะ ยังกรณี คุณป้า ที่กินยาฆ่าแมลงหนี่หนี้ ค้ำประกันให้กับคนรู้จัก

รู้ไหมคะว่า พวกที่มาทวงหนี้ นั้น มีทั้งพวกข่มขู่ ยึดทรัพย์ ใช้กำลังด้วยนะคะ อันที่จริงไม่อยากจะเชื่อ

ว่ามีในสังคมไทยจริง ๆ แต่ที่ แฟลตที่อยู่นี้ เพื่อนข้างห้อง เป็นหนี้บอล โดนตามทำร้ายร่างกายถึงห้อง

ตอนนั้น เรานั่งกอดหมอนฟังเขาถูกทำร้าย อยู่ข้างห้อง ทำอะไรไม่ถูก เลยคะตอนนั้นพึ่งเห็นเหตุการณ์

เถื่อน ๆ กับตนเองเป็นครั้งแรก พอพวกนั้นกลับไปก็ เข้าไปดูคนที่ถูกทำ้ร้าย ตาเขียว ห้วแตก ฟกช้ำ

ไม่มีส่วนใดหักเยิน อย่างที่คิด แค่เป็นหนี้บอลแค่ 30000 บาทนะคะ ยังขนาดนี้เลย ถ้าเป็นแสน น่าจะสาำหัส

กว่านี้แจ้งตำรวจก็ไม่ได้ เพราะโดนขู่ว่า จะตามเล่นงานถึงตาย มีตัวอย่างพวกแจ้งตำรวจแล้วคะ กระดูกหัก

ขาหัก แขนหัก


   เล่านี่ไม่ใช่ให้กลัว นะคะ แต่ถ้าจะรับมือกับเพื่อนที่ยืม ก็ไม่ค่อยยาก คะ แต่จะให้รับมือกับ ญาติ พี่ น้อง ที่

มาขอยืม นี่แหละคะ ที่เป็นปัญหาของ พร จริง ๆ ปีหนึ่งก็เจอหลายหมื่น คะ 5 ปีมานี้ก็ร่วม แสน แล้วยังไม่มีที

ท่าว่าจะได้คืน ล่าสุดมาจะให้ไปค้ำประกัน ด้วยการให้เอาที่นาของเราไปจำนอง รับรองด้วย ปวดห้วคะ

  เราเป็นคนดีในสังคม ก็ใช่ว่า จะเจอคนดี เสมอไปนะคะ

   

[Namo]

สำหรับเรื่อง ญาติ พี่ น้อง ยืม นี้ถือว่าเรามีกรรมร่วมกับเขา คะ

ถ้าเราไม่ช่วย เลยก็ไม่ดี แต่ช่วยแ้ล้ว ก็ต้องดูว่า อย่าให้ครอบครัวเราเดือดร้อน

แต่การระวัง อย่างไร นั้นก็ไม่มีทางครอบคลุม ญาติ พี่ น้อง ที่หลอกเราอย่างเนียน ก็มีมากคะ

 

[หมิว]

จากกรณีแก๊งทวงหนี้โหดใช้หมวกกันน็อก ตีศีรษะแม่ค้าขายหมูปิ้ง นางอารยา สุขสมบูรณ์ อายุ 38 ปี ชาวตำบลไผ่ขวาง อ.เมืองสุพรรณบุรี หลังจากทวงหนี้ที่ติดค้างไว้แค่ 500 บาทไม่ได้ แถมยังพูดจาข่มขู่ท้าทายให้แจ้งตำรวจ จากนั้นขี่รถจยย.ออกไปอย่างใจเย็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 21 มี.ค. พ.ต.อ.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้เร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาลงโทษโดยเร็ว พร้อมกับสั่งให้แต่ละท้องที่ ตรวจสอบว่ามีแก๊งทวงหนี้ในพื้นที่หรือไม่ สำหรับรายนี้ตนยอมไม่ได้ เพราะทำตัวเหนือกฎหมาย
   
ด้าน พ.ต.ท.สุมนตรี กรรณเลขา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ระบุว่า หลังเกิดเหตุตนสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนออกติดตามคนร้าย จนทราบเบาะแสคือนายเสวก ใจคล่องงาม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1647 หมู่ 5 ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี โดยภายหลังนายเสวกได้เข้ามอบตัว ตำรวจเลยแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายพร้อมกับเปรียบเทียบปรับ นำตัวไปทำประวัติก่อนปล่อยตัวไป อย่างไรก็ตามได้เรียกตัวผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยพบว่านายเสวกทำผิดกฎหมายเข้าข่ายปล่อยเงินกู้เกินอัตรากฎหมายกำหนด ซึ่งจะเรียกตัวนายเสวกมาแจ้งข้อหา ข่มขู่เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด.


http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=419&contentID=128229

[Akira]

ล่าแก๊งทวงหนี้ดอกโหดสุดเถื่อนพังบ้านลูกหนี้ หลังเคืองจ่ายเงินไม่ครบ

เมื่อ ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา (23 มี.ค.) ร.ต.อ.สมบูรณ์ ขอบโคกกรวด ร้อยเวร สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บ ในบ้านเลขที่ 12 ซอยเอราวัณ 8 หมู่ 12 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
       
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านหลายคนยืนจับกลุ่มวิพากวิจารณ์เหตุแก๊งค์เงินกู้นอก ระบบเกือบ 20 คนพร้อมอาวุธครบมือเข้าทำร้ายนายวิโรจน์ รัตวรรณ อายุ 29 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการตรวจสอบพบกระสุนปืนขนาด .32 มม.ตกอยู่ 2 นัด

สอบสวน น.ส.สุพิชชา สุภาเรือง อายุ 32 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์ ให้การว่า ช่วงเกิดเหตุได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 20 คน เข้ามารุมทำร้ายผู้บาดเจ็บอย่างบ้าคลั่ง ทั้งยังพยายามจะยิงทิ้ง เคราะห์ดีที่ดวงไม่ถึงคาดกระสุนขัดลำกล้อง จากนั้นได้ตรงเข้ามาพังบ้านทุบทำลายตู้ขายก๋วยเตี๋ยวและผนังบ้านจนเสียหาย หลังหน่ำใจได้โดนขึ้นรถกระบะโตโยต้า ไมตี้เอ็กซ์ สีบรอนด์เงิน ไม่ทราบทะเบียนหลบหนีไป 
   
น.ส.สุพิชชา ให้การต่อว่า จำได้ว่าหนึ่งในผู้ก่อเหตุคือลูกน้องของนายเอี้ยง ซึ่งเป็นคนที่เคยมาเก็บเงินกู้รายวัน ซึ่งน้าสาวไปกู้มา โดยในช่วงบ่ายนายกับลูกน้องได้ขี่รถจยย.ฮอนด้า โซนิค สีแดง จำทะเบียนไม่ได้ แวะมาทวงเงิน แต่น้าสาวจ่ายให้ไปเพียงบางส่วน ทำให้กลุ่มนักทวงหนี้ไม่ค่อยพอใจนัก จึงอาจเป็นเหตุแห่งการถูกทำร้ายและพังบ้านก็ได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างหาเบาะแส เพื่อติดตามจับกุมแก๊งทวงหนี้โหดรายนี้ต่อไป.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=419&contentID=128413

[ฟ้าใหม่แจ่มใส]

การเป็นหนี้ เป็นทุกข์ในโลก

  ดังนั้น ชาวธรรมจึงพยายามใช้ชีวิตอย่าง พอเพียง ไม่ใช่ ใช้เกิน

  ระงับความอยากเสียได้ ก็จะไม่เป็นหนี้

   

[ธัมมะวังโส]

ควรใช้ พรหมวิหาร 4 ในการให้ยืม ให้ใช้ ให้ธรรมะ กับเพื่อนร่วมโลก

  พรหมวิหาร 4 ประกอบด้วย

  1.เมตตา คือปรารถนา ให้เพื่อนมีความสุข ถึงแม้ไม่ได้ให้ยืม ก็ขอให้เขาอย่าลำบาก รวมทั้งเราด้วย

  2.กรุณา คือความเอื้อเฟื้อ ให้เพื่อนในสถานะ ที่สมควรเพื่อให้เพื่อนพ้นจากทุกข์

  3.มุทิตา คือความอ่อนโยน ยินดีในความดี ในความรอด ในความสุข ในความพ้นทุกข์ ของเพื่อน

  4.อุเบกขา คือความวางเฉย วางใจเป็นกลางเมื่ออยู่ในสถานะ ที่ควรเป็นกลางหรือวางเฉย


ลำดับการปฏิบัติ เป็นไปตามลำดับ นะจ๊ะ

   เริ่มจากเบา คือ เมตตา ไป สู่ อุเบกขา


และหลักธรรม สงเคราะห์เพื่อน อีกในหลักทิศ 6

อุตตรทิส ทิศเบื้องซ้าย ได้แก่              มิตรสหาย               พึงบำรุงมิตรสหาย ดังนี้[/t][/t] [/t]                          มิตรสหายอนุเคราะห์ตอบ ดังนี้             ๑. เผื่อแผ่แบ่งปัน              ๒. พูดจามีน้ำใจ              ๓. ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน              ๔. มีตนเสมอร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วย              ๕. ซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน ๑. เมื่อเพื่อนประมาทช่วยรักษาป้องกัน              ๒. เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สมบัติของเพื่อน              ๓. ในคราวมีภัย เป็นที่พึ่งได้              ๔. ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก              ๕. นับถือตลอดถึงวงศ์ญาติของมิตร อันนี้ก็เป็นหลักธรรม ว่าด้วยเรื่องของเพื่อน...... แต่คำว่าเพื่อน ในหลัก พุทธศาสนา นั้นก็คือ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดนั้น คือเพื่อน รวมเรียกว่า สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ทั้งที่มีสังขาร และ ทั้งที่ไม่มีสังขาร ทั้งหมด ทั้งสิ้น นี้เรียกว่า เพื่อน เจริญธรรม

[/td][/tr][/table]

[raponsan]

ยืมเงินคนอื่นแล้วไม่คืน กรรมหนักสาหัสที่จะได้รับ คืออะไร.?

ตามความเชื่อของคนไทย คนที่ยืมเงินคนอื่นแล้วไม่คืน จะถูกลงโทษด้วยกรรมหนัก ซึ่งผลกรรมนั้นอาจเกิดขึ้นได้ในชาตินี้หรือชาติหน้า ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้กระทำ

ผลกรรมในชาตินี้

    1. สูญเสียทรัพย์สิน ผู้ยืมเงินอาจถูกปล้นทรัพย์ ถูกโกง หรือประสบอุบัติเหตุจนสูญเสียทรัพย์สิน
    2. ประสบปัญหาการเงิน ผู้ยืมเงินอาจประสบปัญหาการเงิน หาเงินได้ยาก หรือมีหนี้สินล้นพ้นตัว
    3. มีปัญหาสุขภาพ ผู้ยืมเงินอาจเจ็บป่วยเรื้อรัง หรือประสบอุบัติเหตุจนพิการ
    4. มีปัญหาชีวิต ผู้ยืมเงินอาจมีปัญหาชีวิต เช่น ครอบครัวแตกแยก ชีวิตคู่ไม่ราบรื่น หรือประสบปัญหาด้านหน้าที่การงาน

ผลกรรมในชาติหน้า

    1. เกิดมายากจน ผู้ยืมเงินอาจเกิดมาในครอบครัวยากจน ลำบากในการหาเลี้ยงชีพ
    2. เกิดมาพิการ ผู้ยืมเงินอาจเกิดมาพิการ ไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพได้
    3. เกิดมาเป็นคนขี้โกง ผู้ยืมเงินอาจเกิดมาเป็นคนขี้โกง หลอกลวงผู้อื่น
    4. เกิดมาเป็นคนชั่วร้าย ผู้ยืมเงินอาจเกิดมาเป็นคนชั่วร้าย กระทำการผิดศีลธรรม



วิธีแก้กรรม

หากเคยยืมเงินคนอื่นแล้วไม่คืน สามารถทำได้ดังนี้

    1. ขอขมาเจ้ากรรมนายเวร สามารถทำได้ด้วยการสวดมนต์ แผ่เมตตา หรือทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร
    2. ชดใช้หนี้สิน ในกรณีที่ยังสามารถชดใช้หนี้สินได้ ควรรีบชดใช้โดยเร็วที่สุด
    3. ทำดีละเว้นความชั่ว พยายามทำดีละเว้นความชั่ว เพื่อสร้างบุญกุศลมาชดเชยกรรมที่ได้ทำไว้

ข้อควรระวัง

การยืมเงินคนอื่นแล้วไม่คืนนั้น เป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรมและผิดกฎหมาย ควรหลีกเลี่ยงการกระทำเช่นนี้ เพื่อไม่ให้ต้องเผชิญกับผลกรรมที่ตามมา





ขอขอบคุณ :-
Suwimol L. : ผู้เขียน | 28 ก.ย. 66 (10:31 น.)
website : https://www.sanook.com/horoscope/262483/

[raponsan]

.



กรรมที่ถูกยืมเงินแล้ว ถูกเบี้ยวตลอด เกิดจากอะไร มาดูวิธีแก้กรรม.!!

การที่เราถูกโกงถูกเบี้ยวเรื่องเงินทองอยู่เสมอนั้น ก็เพราะในอดีตชาติ หรือแม้ในชาติปัจจุบันเป็นประเภทที่ว่า ยืมเงินเขาแล้วไม่ยอมคืน ประเภทขอยืมแล้วขอลืมไปเลย

กรรมที่พอมีเงินทีไรก็มักจะมีคนมาขอความช่วยเหลือ เป็นประเภทที่ว่า ให้ใครยืมแล้วมักจะไม่เคยได้คืน กรรมที่ถูกยืมเงินแล้วถูกเบี้ยวตลอดเกิดจากอะไร มาดูวิธีแก้กรรม.!!

หลายๆท่านคงเคยพบว่า ตนเองเป็นผู้ที่มีเงินมีทรัพย์อยู่พอสมควร อีกทั้งเป็นคนที่มีจิตใจกว้างขวางมีอะไรก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนอื่นเสมอ แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมอยู่เสมอคือ พอมีเงินทีไรก็มักจะมีคนมาขอความช่วยเหลือ เป็นประเภทที่ว่าให้ใครยืมแล้วมักจะไม่เคยได้คืน หรือถูกโกงถูกเอาเปรียบเรื่องเงินอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่เราเองก็ไม่เคยเอาเปรียบหรือคดโกงใครมีแต่ความปรารถนาดีให้คนอื่นเสมอ เหตุใดเราจึงต้องรับผลกรรมเช่นนั้น ลองมาพิจารณากัน

  • กรรมเก่าเคยไปสร้างกรรมหนักประเภทขโมยของวัด ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ อะไรที่เขายังไม่อนุญาตก็นึกเองเออเอง หยิบฉวยเอาไป



เหตุจากกรรมเก่า

การที่เราถูกโกงถูกเบี้ยวเรื่องเงินทองอยู่เสมอนั้น ก็เพราะในอดีตชาติหรือแม้ในชาติปัจจุบันเป็นประเภทที่ว่ายืมเงินเขาแล้วไม่ยอมคืนประเภทขอยืมแล้วขอลืมไปเลย เวลาใครมาทวง หรือพูดถึงก็ปฏิเสธพัลวันว่าไม่ได้ไปยืมมา ยิ่งไปสร้างกรรมทางใจหนักเข้าไปอีก หรือเวลาที่ทำบุญไปแล้วมักคิดเสียดายในภายหลังคือเจตนาภายหลังการให้ไม่บริสุทธิ์ หรือตั้งใจจะทำบุญแล้วเปลี่ยนใจไม่ยอมทำภายหลัง

อาจเป็นผู้ที่ชอบนินทาว่าร้ายคนที่จะทำบุญ หรือผู้ทรงศีล ผู้ที่ดูแลรักษาผลประโยชน์ให้กับส่วนรวมให้กับวัดโดยไม่มีมูลไม่มีเหตุ ตั้งใจว่าร้ายด้วยจิตที่เป็นอคติ และเคยอธิษฐานตั้งใจจะทำบุญใด ๆ ไว้แล้วไม่ยอมทำตามคำอธิษฐานนั้น ประเภทได้แล้วไม่ยอมทำตาม ซึ่งทำให้ไปก่อกรรมก่อเวรเพิ่ม ซึ่งคราวนี้เป็นดวงจิตวิญญาณชั้นสูง ที่มีอำนาจเหนือกว่า ท่านก็จะปิดทางเรื่องเงินเสีย อะไรที่มีท่านก็จะมาเอาคืนไป ทำให้เสียเงินอยู่ตลอดเวลา

หรือเคยไปสร้างกรรมหนักประเภทขโมยของวัด ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ อะไรที่เขายังไม่อนุญาตก็นึกเองเออเอง หยิบฉวยเอาไป กรรมประเภทนี้มักจะเป็นเรื่องของวัตถุที่มีคู่กรรมคู่เวรเป็นผู้สูญเสียที่มีจิตพยาบาท ต้องการของคืน

ซึ่งทางแก้ในเรื่องนี้ไม่ยากนัก อยู่ที่เราเป็นตัวหลักหรือเป็นทายาทกรรม ที่มีชีวิต เรียนหนังสือมาได้โดยเงินคดโกงของพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย บรรพบุรุษไปโกงเขามา ยิ่งถ้าเงินนั้นเป็นเงินแผ่นดิน ลูกหลานที่มีชีวิตด้วยเงินนั้นจะได้รับติดต่อกันไปถึง 7 ชั้นหรือที่เรียกว่า “7 ชั่วโคตร” คนที่เป็นลูกหลานจะต้องเจอคู่กรรมคู่เวร เขามาเอาเงินคืนไม่ว่าจะด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง เรื่องของกรรมนั้นละเอียดอ่อนมาก เท่าที่ยกตัวอย่างมานั้นคงพอจะทำให้ทุกคนเห็นภาพและเข้าใจได้

  • ปล่อยให้คนอื่นต้องรอด้วยความหวังลม ๆ แล้ง ๆ และยากลำบาก นอกจากนั้นโดยส่วนตัวเองแล้ว ยังเป็นคนที่ชอบหมกมุ่นมัวเมาอยู่ในอบายมุข



เหตุจากกรรมใหม่

กรรมที่ทำให้ถูกโกงถูกเบี้ยวอยู่เสมอหากมองในแง่ปัจจุบันก็คือ ตัวเราเองนั่นแหละ ที่มีส่วนทำให้ถูกโกงหรือสร้างโอกาสให้ตัวเองถูกโกงถูกเบี้ยวอยู่แล้ว เขาเรียกว่า พาตัวเองไปสู่ความเสี่ยง พาตัวเองให้ตกลงไปในทางเสื่อม เพราะส่วนหนึ่งอาจจะไปการคบหากับ ”คนพาล” หรือคนที่ไม่ค่อยจะมีนิสัยไม่ดีนักเป็นคนไม่รับผิดชอบ ไม่มีวินัยในทางการเงิน ซึ่งคนไทยหรือคนจีนที่ทำการค้าเก่งๆ เขาจะให้โอกาสคนแค่ครั้งเดียว หากเป็นคนมีสัจจะรักษาคำพูด เขาจะช่วยเหลือกันไปจนกว่าจะตาย แต่ถ้าให้ยืมเงินแล้วไม่คืนแค่ครั้งเดียว ต่อให้มาตายตรงหน้าเขาก็ไม่ช่วยอีก

บางครั้งเราเองเป็นคนใจอ่อนหรืออาจะไม่ทันคน ทั้งๆ ที่ รู้นิสัย รู้ดีอยู่แล้วว่าคนที่มายืมเงินของเรามาขอทรัพย์เราใช้นั้นเป็นคนเกียจคร้านไม่ทำมาหากินและไม่มีศีล แต่ก็ยังยอมให้เงินให้ทรัพย์เขาไป อย่างนี้ต้องโทษตัวเองไปโทษใครเขาไม่ได้ เงินอยู่ในกระเป๋าแท้ๆ ยังให้เขาไปอีก เคยโกงเงินคนอื่นมาก่อนโดยเฉพาะคนใกล้ตัว โกงญาติพี่น้องหรือถ้าเป็นคนทำงานก็เคยโกงค่าแรงลูกจ้างอย่างไม่เป็นธรรมไม่จ่ายในสิ่งที่ควรจ่าย

ปล่อยให้คนอื่นต้องรอด้วยความหวังลม ๆ แล้ง ๆ และยากลำบาก นอกจากนั้นโดยส่วนตัวเองแล้ว ยังเป็นคนที่ชอบหมกมุ่นมัวเมาอยู่ในอบายมุข ชอบเล่นการพนันเป็นนิจ การพนันนั้นเป็นทางแห่งความเสื่อมทรัพย์ที่รุนแรง เพราะกฎของการพนันก็คือ เมื่อมีคนได้ย่อมมีคนเสีย คนที่เล่นการพนันอยู่เป็นประจำจึงเสมือนโกงคนอื่นอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่อาศัยกฎการพนันที่เป็นกฎทางโลกตั้งขึ้นมาบังหน้าเอาไว้เท่านั้น

   • เมื่อยืมเงินใครก็ควรจ่ายคืนเขาไปแต่ถ้ามากมายหลายเจ้า ให้จ่ายคืนแก่คนที่เขากำลังเดือดร้อนมากเพราะการกระทำของเรา ควรให้ผู้นั้นไปก่อน



การแก้ไขในทางโลก

การที่เราจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ถูกยืมเงินแล้วเบี้ยวหรือถูกโกงอีก เราต้องรู้จัก “เลือกที่จะให้” คือใครที่เคยมาขอยืมของแล้วเอามาคืนก็พึงให้ยืมอีก แต่ถ้าใครมาขอยืมของแล้วไม่รักษาคำพูด ไม่ระมัดระวังเงินที่ให้ไป หรือเงินนั้นไปก่อให้เกิดความเสียหายกับชีวิตของเขาหรือคนอื่น หรือไม่ยอมนำมาคืน ก็อย่าพึงให้ยืมอีกเป็นอันขาด เป็นการป้องกันไว้ชั้นแรกรวมถึงเป็นการช่วยดัดนิสัยเขาทางอ้อมด้วย

โดยส่วนตัวเองนั้น ควรต้องละเลิกในการข้องเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นอบายมุขทั้งมวลแบบทันทีโดยเฉพาะเรื่องการพนัน ผู้ที่ชนะพนันเก่ง ๆ และได้เงินมากๆ นั้นเป็นเพราะเขา “โกงได้เก่ง” ทำได้แนบเนียนจนจับไม่ได้จึงไม่อาจเรียกได้ว่าโกงซึ่งผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรมพาให้เสื่อมได้ตลอดเวลา การคิดในทางที่ผิดที่อยากจะได้ของๆ คนอื่นเป็นเรื่องที่แย่มากในความเป็นคน ใครยังคิดแบบนี้โปรดเปลี่ยนวิธีคิดเสีย

หากมีภาระหนี้ เป็นรายจ่ายที่ต้องจ่ายให้กับผู้อื่น ควรพิจารณาในหลายๆ เรื่อง ต้องเอาเรื่องที่ทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนวุ่นวายอย่างแน่นอนถ้าไม่จ่าย หรือขอให้จ่ายคืนแก่คนที่เขากำลังเดือดร้อนมากเพราะการกระทำของเรา ควรให้ผู้นั้นไปก่อน สำหรับหนี้ไม่ว่าจะเป็นหนี้ใคร หากจ่ายคืนได้ไม่หมดในคราวเดียว ก็ขอให้ทยอยจ่ายและแสดงความตั้งใจที่จะจ่ายเงินอย่างจริงใจ ไม่หลบหนีนอกจากจะไม่โดนผูกอาฆาตแล้ว ยังจะได้รับการยอมรับนับถือในน้ำใจและการแสดงความรับผิดชอบอีกด้วย

   • หมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา



การแก้ไขในทางธรรม

ให้สร้างกรรมดีโดยทำบุญทำทานด้วยการถวายสังฆทานอยู่เป็นประจำทุกเดือนหรือตามแต่กำลังทรัพย์ที่มี และที่สำคัญอย่าพึงเสียดายในทานที่ให้แก่บุคคลใดหรือกับใครก็ตาม หากมีคนมาขอความช่วยเหลือเรื่องเงินอีก ถ้าสามารถให้ยืมได้โดยที่ตนเองไม่เดือดร้อนแม้ว่าเขาจะคืนหรือไม่ก็ควรให้ไป โดยพึงระลึกเสียว่าเมื่อตั้งใจได้ให้เป็นทานไปแล้ว แม้จะได้คืนหรือไม่ก็ไม่ขอติดใจอะไร

ยกให้เป็นบุญเสีย เพราะหากไม่ได้คืนก็จะไม่เจ็บแค้น ผูกโกรธผูกอาฆาตกันต่อไปอีก และถือเป็นการชดใช้คืนแก่คู่กรรมคู่เวรไป นอกจากนั้นให้ทำทานในลักษณะของการสละทรัพย์บริจาคในงานบุกุศล หรือบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยต่าง ๆ ตามแต่กำลังที่มีถือเป็นบุญใหญ่หรือบุญเพื่อการสาธารณะ การบริจาคโลงศพ เงินสงเคราะห์ต่าง ๆ

   • หากมีคนมาขอยืมเงินเพราะเดือดร้อนจงตั้งใจให้เป็นทาน พึงระลึกเสียว่าเมื่อตั้งใจได้ให้เป็นทานไปแล้ว แม้จะได้คืนหรือไม่ก็ไม่ขอติดใจอะไร



เคล็ดลับสำคัญ

ให้อโหสิกรรมกับคนที่มาเบี้ยวเงินเสีย ให้คิดเสียว่าเราใช้หนี้เวรหนี้กรรมหมดไปแล้วในชาตินี้ อย่าไปสร้างกรรมอะไรต่อกันเลยหากอยากได้เงินคืนให้อุทิศบุญไปให้เขา และเทวดาประจำตัวเขา อธิษฐานจิตว่า ถ้าเรายังเป็นเจ้าหนี้ขอให้เขานำเงินมาชดใช้ จะได้สิ้นเวรสิ้นกรรมกันไป ไม่ผูกพันกันอีก รักษาศีลให้ดีโดยเฉพาะศีลข้อที่ 2 ที่ต้องระวังเรื่องการเบียดเบียนทรัพย์ผู้อื่นในลักษณะการขอยืมแล้วไม่คืน การถือวิสาสะนำของไปใช้โดยไม่บอกกล่าว แม้จะเป็นคนที่คุ้นเคยหรือเป็นญาติพี่น้องพ่อแม่ก็ตามจะเอาสิ่งใดไปใช้ต้องขออนุญาตก่อนเสียทุกครั้ง

การหมั่นเจริญภาวนาอุทิศส่วนบุญกุศลไปให้คู่กรรมคู่เวรทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตอยู่ให้บ่อยที่สุดโดยเฉพาะคนที่เบี้ยวหนี้คดโกงเรานั้น ขอให้ตั้งใจอธิษฐานบทอุทิศบุญให้เขาเป็นพิเศษเพื่อเป็นการคลายกรรมที่เคยผูกพันกันมาให้เป็นอิสระต่อจากกัน ซึ่งจะเป็นเหตุให้เราสามารถอภัยให้เขาได้ เมื่อให้อภัยได้ก็จะเกิดผลบุญที่เรียกว่า อโหสิกรรม คือกรรมที่เคยผูกพันให้เดือดร้อนนั้นจะไม่มีผลต่อกันอีกต่อไป

    • การหมั่นเจริญภาวนาอุทิศส่วนบุญกุศลไปให้คู่กรรมคู่เวรทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตอยู่ให้บ่อยที่สุดโดยเฉพาะคนที่เบี้ยวหนี้คดโกงเรา







Thank to : https://www.winnews.tv/news/15292
โดย Poundtawan | 03 พ.ค. 2560 - 01.42 น. , แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 2560 - 09.08 น.
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
- http://horoscope.sanook.com/116465/
- www.google.co.th

[raponsan]

.



7 วิธีแก้กรรม แก้การเงินติดขัดของคนทั้ง 7 วัน พร้อมวิธีเรียกเงินเข้ากระเป๋า.!

การเงินติดขัด แก้ยังไงดี? แก้ที่ตัวก็แล้ว อะไรก็แล้ว มันยังไม่หาย ขอพึ่งพาทางมูเตลูไปแก้กรรมอีกสักทางให้มันสบายใจเผื่อการเงินจะกลับมาลื่นไหลคล่องตัวปรู๊ดปร๊าดเหมือนเดิมสักที! *Cosmenet มาพร้อมวิธีแก้กรรม แก้การเงินติดขัดของคนทั้ง 7 วัน ให้ปังไปด้วยกันตลอดปีตลอดไปค่า

การเงินติดขัด ชีวิตมันก็สะดุด ใครบอกเงินซื้อความสุขไม่ได้แนะนำว่าโอนมาได้ที่บัญชี *Cosmenet ค่ะ เพราะทางนี้ต้องการเงินไปซื้อความสุขมากกกก  แต่ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้น เงินก็เฟ้อ ทำให้ทุกอย่างมันสะดุด ชักหน้าจะไม่ถึงหลังเข้าวงการเดือนชนเดือนมาเนิ่นนาน

7 วิธีแก้กรรมแก้การเงินติดขัดของคนทั้ง 7 วัน



แก้กรรม แก้การเงินติดขัด คนเกิดวันอาทิตย์

วิบากกรรมคนเกิดวันอาทิตย์ คนเกิดวันอาทิตย์ มีวิบากกรมเรื่องคน ทำบุญ ทำคุณกับใครไม่เคยขึ้น ใคร ๆ ก็ไม่ค่อยเกื้อหนุนจุนเจือ ทำให้ชีวิตวัยเด็กค่อนข้างลำบากไม่ค่อยได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบ ลูกน้องหรือเพื่อนฝูงก็ทำให้เดือดร้อนและความใจอ่อนจึงทำให้ตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหาอยู่บ่อย ๆ ทำให้มีปัญหาการเงินเพราะคนอื่น แถมโดนขัดลาภอีกด้วย

วิธีแก้กรรมแก้การเงินติดขัดคนเกิดวันอาทิตย์ คือ ทำบุญด้วยอะไรที่ให้ความสว่าง ให้คนมองเห็นชัด เช่น หลอดไฟ โคมไฟ เทียน แว่นตา และให้ทำบุญเกี่ยวกับคนพิการเป็นประจำจะทำให้ผ่อนหนักเป็นเบาและเปิดดวงโชคลาภมากขึ้น



แก้กรรม แก้การเงินติดขัด คนเกิดวันจันทร์

วิบากกรรมคนเกิดวันจันทร์ คนเกิดวันจันทร์ มีวิบากกรรมเรื่องความรักหรือมักเป็นทุกข์ใจเพราะคนรัก บางคนอาจตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่ต้องไปเป็นรองคนอื่น หรือมักจะต้องคอยดูแลและเชิดชูคนรักอยู่เสมอทำให้เหนื่อยและมีปัญหาที่ต้องคิดไม่ตกอยู่คนเดียว ในเรื่องของการเงินก็ช่วยเขาจนเรามือจะขาดอยู่แล้ว เปย์เบา ๆ หน่อยเนาะะ

วิธีแก้กรรมแก้การเงินติดคนเกิดวันจันทร์ คือ การทำทานและบริจาคสิ่งของที่เป็นของคู่กัน เช่น รองเท้า แจกันคู่ ช้อนส้อม ตะเกียบ เทียนคู่ ร่วมบุญสร้างฝายกั้นน้ำและการปล่อยสัตว์ที่ถูกกักขังทั้งเล็กและใหญ่ ซึ่งจะช่วยปลอดปล่อยตัวเราและแก้การเงินติดขัดรวมไปถึงช่วยเปิดทางโชคลาภให้เข้ามาในชีวิตง่ายขึ้นด้วย



แก้กรรม แก้การเงินติดขัด คนเกิดวันอังคาร

วิบากกรรมคนเกิดวันอังคาร คือมักจะโดนเอาเปรียบ การถูกใส่ร้ายป้ายสี และการถูกมองเป็นคนไม่ดีแข็งกร้าว โดยการโดนเอาเปรียบมักมาจากคนที่รักและไว้ใจ ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนตรง ๆ ออกแนวโผงผางด้วยซ้ำในบางครั้ง จึงทำให้วิบากกรรมนี้ไปบดบังช่องทางโชคลาภเงินทอง ต่อให้มีโชคก็ไม่เยอะไม่ถึงใจหวังสักที

วิธีแก้กรรมแก้การเงินติดขัดคนเกิดวันอังคาร ให้เน้นทำบุญกับพระในบ้านอย่างพ่อแม่ และช่วยเหลือคนที่มีพระคุณ เช่น ญาติผู้ใหญ่ ไม่ว่าใครก็ตาม ดวงบริวารเราจะดีขึ้น ลดปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบ และส่งเสริมการเงินให้ไหลลื่น และช่วยดึงดูดโชคลาภให้เข้ามาแบบปัง ๆ เต็มไม้เต็มมือมากขึ้น!



แก้กรรม แก้การเงินติดขัด คนเกิดวันพุธ

วิบากกรรมคนเกิดวันพุธ คนเกิดวันพุธเป็นคนเฟรนด์ลี่และเป็นมิตร แต่อนิจจาความซวยก็เกิดได้เพราะความเป็นมิตร ขี้เล่นมากไป จึงทำให้มีกรรมเรื่องบริวารและคนรอบข้างมองเราเป็นคนไม่ดี เป็นคนเจ้าชู้ จนขัดโชคลาภและการเงินได้ในบางโอกาส แถมพอหาเงินได้ ก็มีเหตุให้ต้องมือรั่ว หามาเท่าไหร่ หมดไปเท่านั้นทุกทีเลย

วิธีแก้กรรมแก้การเงินติดขัดคนเกิดวันพุธ แนะนำให้ทำบุญเกี่ยวกับน้ำดื่ม น้ำปานะ ให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุขขึ้น รวมถึงการถวายหลอดไฟ มอบทุนการศึกษาและการทำทานชีวิตสัตว์ไม่ว่าจะไถ่ชีวิตสัตว์ใหญ่ หรือปล่อยนกปล่อยปลา จะทำให้คนรอบตัวดีกับเรามากขึ้น และการเงินจะมั่นคงขึ้นด้วยเช่นกัน



แก้กรรม แก้การเงินติดขัด คนเกิดวันพฤหัสบดี

วิบากกรรมคนเกิดวันพฤหัสบดี มีวิบากกรรมที่ติดตัวมาเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องกระดูกหรือระบบอวัยวะภายใน จึงมักเสียเงินไปกับการหาหมอ และต้องดูแลรักษาสุขภาพ ซึ่งหมดทีไม่ใช่น้อย ๆ ด้วยน่ะสิ ความซวยยังไม่หมด ยังมักเจอคนตีสองหน้าซึ่งเป็นวิบากกรรมเรื่องบริวาลที่ขัดลาภเข้าไปอีก

วิธีแก้กรรมแก้การเงินติดขัดคนเกิดวันพฤหัสบดี เพื่อให้ทุกอย่างทุเลาลง แนะนำให้ทำบุญกับพระ เช่น ถวายผ้าไตรจีวร หนังสือสวดมนต์ บริจาคทุนการศึกษาให้กับพระหรือเณร และถ้าหากมีงานบุญของคนรู้จักก็ร่วมเป็นเจ้าภาพ/ร่วมบุญงานบวช จะช่วยให้วิบากกรรมเรื่องสุขภาพและการเงินนั้นดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด



แก้กรรม แก้การเงินติดขัด คนเกิดวันศุกร์

วิบากกรรมคนเกิดวันศุกร์ คนเกิดวันศุกร์เป็นคนที่ใจเย็น ชิล ๆ สบาย ๆ และจิตใจดีและวิบากกรรมของคนใจดี คือมักโดนเอารัดเอาเปรียบซะอย่างนั้น เช่น ยืมเงินแล้วไม่คืน ถูกหลอกไปทำธุรกรรมการเงินที่ต้องเสียเปรียบ ทำให้ดวงการเงินไม่คงที่ ดวงโชคลาภก็คือแป้กเสมอ

วิธีแก้กรรมแก้การเงินติดขัดคนเกิดวันศุกร์ บริจาคเงินหรือสิ่งของให้คนยากไร้ คนไร้บ้าน และให้แบบขาด ไม่ยึดถือว่าเงินนั้น หรือของนั้น เขาจะเอาไปทำอะไร ทำบุญด้วยใจบริสุทธิ์ จะทำให้ดวงบริวารเราดีขึ้น และการเงิน ดวงเสี่ยงโชคเล็ก ๆ น้อย ๆ จะดีขึ้นตามลำดับ



แก้กรรม แก้การเงินติดขัด คนเกิดวันเสาร์

วิบากกรรมคนเกิดวันเสาร์ คนเกิดวันเสาร์ เป็นพวกคิดเล็กคิดน้อย และแค้นฝังหุ่น วิบากกรรมที่ติดตัวมา มักจะเป็นเรื่องของคนและบริวาลที่หันหน้าไปพึ่งพาใครก็ไม่ได้ แม้แต่คนที่เราช่วยเหลือไปก็ไม่เคยยื่นมือมาช่วยเลยสักครั้ง จนทำให้ดวงการเงินและโชคลาภนั้นมีน้อยนิดไปด้วย

วิธีแก้กรรมแก้การเงินติดขัดคนเกิดวันเสาร์ หมั่นทำบุญเกี่ยวกับสิ่งของที่มั่นคง เป็นปึกแผ่น เช่น บริจาคร่วมซื้อที่ดินถวายวัด ปลูกต้นไม้ในวัด ถวายหนังสือธรรมะ หรือบริจาคหนังสือเรียน จะช่วยผ่อนเบาเรื่องวิบากกรรมเกี่ยวกับบริวาร และการเงินคล่องมือมากขึ้น มีคนเข้ามาหยิบยื่นให้ความช่วยเหลือมากกว่าแต่ก่อนจ้า

@@@@@@@

จบวิธีแก้กรรมแก้การเงินติดขัดของคนทั้ง 7 วันไปเรียบร้อยแล้ว ขอเสริมด้วยบทสวด เรียกเงินเข้ากระเป๋า ให้ปัง ๆ เฮง ๆ กันค่า ว่าแล้วก็ไปป!

บทสวด เรียกเงินเข้ากระเป๋า

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ (3 จบ)
“โอม มหาลาโภ โชคะวันตัง เอหิ จงมา ธะนะปาตัง มากะมายังอักขะโต ปาระติโย วันทิตตะวา นะมามิหัง”

ถือเป็นบทสวดภาวนา เรียกเงินเข้ากระเป๋า สามารถสวดตอนไหนก็ได้ ไม่ว่าจะตอนเช้า ก่อนนอน หรือเอาไว้สวดก่อนไปทำงาน ก่อนค้าขาย เรียกขวัญกำลังใจ สร้างสมาธิและเรียกโชคลาภเข้าหาตัวค่า ^/\^



5 ทริคเรียกเงิน แก้การเงินติดขัด ให้เงินเข้าทุกวัน!

ทริคเรียกเงินให้เข้ากระเป๋า และไม่ไหลปรู๊ดออกจากมือไปง่าย ๆ บอกเลยว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลเนาะ ทำแล้วสบายใจ และเป็นการเตือนตัวเองไม่ให้ใช้เงินเกินตัวด้วยนะ ♥

    • มีแบงค์ติดกระเป๋าเสมอ พยายามอย่าให้กระเป๋าเงินโล่ง เงินก็เหมือนนก ถ้ารังนี้ไม่มีนกอยู่ มันก็จะบินหนีไปตาม ๆ กันจนกระเป๋าตังบ๋อแบ๋จ้า
    • เรียงแบงค์ 1,000 / 500 / 100 / 20 ตามลำดับ และควรให้แบงค์ใหญ่อยู่ด้านในสุดเสมอ ถือเคล็ดว่าเงินจะออกแค่เล็กน้อย และออกแค่แบงค์เล็ก ๆ เท่านั้น
    • ไม่พกบัตร เหรียญ และแบงค์ปนกัน จะทำให้การเงินยุ่งเหยิงและขาดมือบ่อย ๆ
    • คว่ำธนบัตรลงเสมอ เวลาสอดเงินเข้ากระเป๋า เป็นเคล็ดให้มีเงินวิ่งเข้ากระเป๋าตลอดเวลา
    • พกเครื่องรางการเงินไว้ในกระเป๋า หรือพับธนบัตรเป็นเครื่องรางก็ได้นะ ♥HOW TO พับเครื่องรางอยู่นี่จ้า ♥
แต่แน่นอนว่าทริคนี้จะไม่ได้ผลเลย ถ้ายังจัดการรายจ่าย และเรียบเรียงความสำคัญของการใช้เงินไม่ได้น้าา คนเราให้รางวัลตัวเองได้ แต่อย่าให้บ่อยเกินความจำเป็นค่าา (เหมือนบอกตัวเองแล้วหนึ่ง! ><)




Thank to : https://www.cosmenet.in.th/cosme-intrend/49159
สาระน่ารู้ | 15 ก.พ. 2566

[raponsan]

.
 

การคบมิตร มิตรเทียม มิตรแท้

ใน สิงคาลกสูตร ว่าด้วยสิงคาลกมาณพ , พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๑ , พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๓ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ได้กล่าวถึง
    - โทษแห่งการคบคนชั่วเป็นมิตร ๖ ประการ
    - มิตรเทียม มิตรมีใจดี(มิตรแท้)
    - การปิดป้องทิศ ๖

ขอยกเรื่อง "มิตรมีใจดี(มิตรแท้)" มาแสดงดังนี้



ขอบคุณภาพจากไทยรัฐออนไลน์


มิตรมีใจดี

[๒๖๐] คหบดีบุตร คน ๔ จำพวกนี้ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี(มิตรแท้) คือ
         ๑. มิตรมีอุปการะ พึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี
         ๒. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ พึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี
         ๓. มิตรแนะนำประโยชน์ พึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี
         ๔. มิตรมีความรักใคร่ พึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี
                                       
[๒๖๑] คหบดีบุตร มิตรมีอุปการะ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการ คือ
         ๑. ป้องกันเพื่อนผู้ประมาทแล้ว
         ๒. ป้องกันทรัพย์สมบัติของเพื่อนผู้ประมาทแล้ว
         ๓. เมื่อมีภัยก็เป็นที่พึ่งพำนักได้
         ๔. เมื่อมีกิจที่จำเป็นเกิดขึ้น ก็ช่วยโภคทรัพย์ให้ ๒ เท่าของทรัพย์ที่ต้องการในกิจนั้น
             
คหบดีบุตร มิตรมีอุปการะ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการนี้แล

@@@@@@@

[๒๖๒] คหบดีบุตร มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการ คือ
         ๑. บอกความลับแก่เพื่อน
         ๒. ปิดความลับของเพื่อน
         ๓. ไม่ละทิ้งในยามอันตราย
         ๔. แม้ชีวิตก็อาจจะสละเพื่อประโยชน์ของเพื่อนได้

คหบดีบุตร มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการนี้แล

[๒๖๓] คหบดีบุตร มิตรแนะนำประโยชน์ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดีโดยเหตุ ๔ ประการ คือ
         ๑. ห้ามมิให้ทำความชั่ว
         ๒. แนะนำให้ตั้งอยู่ในความดี
         ๓. ให้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
         ๔. บอกทางสวรรค์ให้
                                                 
คหบดีบุตร มิตรแนะนำประโยชน์ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการนี้แล

@@@@@@@

[๒๖๔] คหบดีบุตร มิตรมีความรักใคร่ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการ คือ
         ๑. ไม่พอใจความเสื่อมของเพื่อน
         ๒. พอใจความเจริญของเพื่อน
         ๓. ห้ามปรามคนที่นินทาเพื่อน
         ๔. สนับสนุนคนที่สรรเสริญเพื่อน

คหบดีบุตร มิตรมีความรักใคร่ เธอพึงทราบว่า เป็นมิตรมีใจดี โดยเหตุ ๔ ประการนี้แล”

[๒๖๕] พระผู้มีพระภาคผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสเวยยากรณภาษิตนี้แล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
             
    “บุคคลที่เป็นมิตรมีใจดี ๔ จำพวกนี้ คือ
         (๑) มิตรมีอุปการะ
         (๒) มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์
         (๓) มิตรแนะนำประโยชน์
         (๔) มิตรมีความรักใคร่
     บัณฑิตรู้อย่างนี้แล้ว พึงเข้าไปคบหาโดยความจริงใจ เหมือนมารดาคบหาบุตรผู้เกิดแต่อก ฉะนั้น
     บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล ย่อมสว่างโชติช่วงดังดวงไฟ
     เมื่อบุคคลสะสมโภคทรัพย์อยู่ดังตัวผึ้งสร้างรัง โภคทรัพย์ของเขาก็ย่อมเพิ่มพูนขึ้น ดุจจอมปลวกที่ตัวปลวกก่อขึ้น ฉะนั้น

     คฤหัสถ์ในตระกูลผู้สามารถ ครั้นรวบรวมโภคทรัพย์ได้อย่างนี้แล้ว พึงแบ่งโภคทรัพย์ออกเป็น ๔ ส่วน คือ 
         - ส่วนหนึ่งใช้สอย (๑ ส่วน)
         - สองส่วนใช้ประกอบการงาน (๒ ส่วน)
         - ส่วนที่สี่เก็บไว้ (๑ ส่วน) ด้วยหมายใจว่า จะใช้ในยามมีอันตราย จึงผูกมิตรไว้ได้”
 


ขอบคุณภาพจาก https://simplymommynote.net/simply-tips/direction-6-theory/


และขอยก ฉทิสาปฏิจฉาทนกัณฑ์ ว่าด้วยการปิดป้องทิศ ๖ มาแสดงบางส่วนดังนี้

[๒๗๐] คหบดีบุตร กุลบุตรพึงบำรุงมิตรสหาย ผู้เป็นทิศเบื้องซ้ายโดยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. การให้ (การแบ่งปันสิ่งของให้)
         ๒. กล่าววาจาเป็นที่รัก
         ๓. ประพฤติตนให้เป็นประโยชน์
         ๔. วางตนสม่ำเสมอ
         ๕. ไม่พูดจาหลอกลวงกัน

มิตรสหายผู้เป็นทิศเบื้องซ้าย กุลบุตรบำรุงโดยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยหน้าที่ ๕ ประการ คือ
         ๑. ป้องกันมิตรผู้ประมาทแล้ว
         ๒. ป้องกันทรัพย์ของมิตรผู้ประมาทแล้ว
         ๓. เมื่อมีภัยก็เป็นที่พึ่งพำนักได้
         ๔. ไม่ละทิ้งในยามอันตราย
         ๕. นับถือตลอดถึงวงศ์ตระกูลของมิตร

คหบดีบุตร มิตรผู้เป็นทิศเบื้องซ้าย กุลบุตรบำรุงด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้แล ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยหน้าที่ ๕ ประการนี้ ทิศเบื้องซ้ายนั้นเป็นอันชื่อว่า กุลบุตรได้ปิดป้อง ทำให้เกษมปลอดภัยแล้ว ด้วยประการฉะนี้

@@@@@@@

อีกสำนวนหนึ่ง เรื่อง "ทิศ 6" จาก พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

4. อุตตรทิศ (ทิศเบื้องซ้าย ทิศเหนือ ได้แก่ มิตรสหาย เพราะเป็นผู้ช่วยให้ข้ามพ้นอุปสรรคภัยอันตราย และเป็นกำลังสนับสนุน ให้บรรลุความสำเร็จ)

  ก. บุคคลพึงบำรุงมิตรสหาย ผู้เป็นทิศเบื้องซ้าย ดังนี้
      1) เผื่อแผ่แบ่งปัน
      2) พูดจามีน้ำใจ
      3) ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
      4) มีตนเสมอ ร่วมสุขร่วมทุกข์กัน
      5) ซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน

  ข. มิตรสหายย่อมอนุเคราะห์ตอบ ดังนี้
      1) เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาป้องกัน
      2) เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สมบัติของเพื่อน
      3) ในคราวมีภัย เป็นที่พึ่งได้
      4) ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก
      5) นับถือตลอดถึงวงศ์ญาติของมิตร


 

“อิณาทานํ ทุกฺขํโลเก” การก่อหนี้เป็นทุกข์ในโลก , ในแง่ของปุถุชนย่อมเป็นทุกข์แน่นอน แต่ในฐานะชาวพุทธก็ควรยึดหลัก "พรหมวิหาร ๔" เอาไว้ด้วย จะทำให้โลกนี้สวยงามยิ่งขึ้น